สงครามเวียดนาม หรือ สงครามอินโดจีนครั้งที่สอง หรือที่ชาวเวียดนามรู้จักกันในชื่อ สงครามอเมริกา เป็นสงครามตัวแทนสมัยสงครามเย็นที่เกิดขึ้นในประเทศเวียดนาม ลาวและกัมพูชาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2498[A 2] กระทั่งกรุงไซ่ง่อนแตกเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2518 สงครามเวียดนามนี้เกิดขึ้นหลังสงครามอินโดจีนครั้งที่หนึ่ง และมีเวียดนามเหนือซึ่งได้รับการสนับสนุนจากจีน สหภาพโซเวียตและพันธมิตรคอมมิวนิสต์อื่นเป็นคู่สงครามฝ่ายหนึ่ง กับรัฐบาลเวียดนามใต้ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐและประเทศที่ต่อต้านคอมมิวนิสต์อื่นเป็นคู่สงครามอีกฝ่ายหนึ่ง[32] เวียดกง (หรือ แนวร่วมปลดปล่อยแห่งชาติ) เป็นแนวร่วมประชาชนคอมมิวนิสต์เวียดนามใต้ที่ติดอาวุธเบาซึ่งมีเวียดนามเหนือสั่งการ สู้รบในสงครามกองโจรต่อกำลังต่อต้านคอมมิวนิสต์ในภูมิภาค กองทัพประชาชนเวียดนาม (กองทัพเวียดนามเหนือ) ต่อสู้ในสงครามตามแบบมากกว่า และบางครั้งส่งหน่วยขนาดใหญ่เข้าสู่ยุทธการ เมื่อสงครามดำเนินไป ส่วนการต่อสู้ของเวียดกงลดลงขณะที่บทบาทของกองทัพประชาชนเวียดนามเพิ่มขึ้น กำลังสหรัฐและเวียดนามใต้อาศัยความเป็นเจ้าเวหาและอำนาจการยิงที่เหนือกว่าเพื่อดำเนินปฏิบัติการค้นหาและทำลาย ซึ่งรวมถึงกำลังภาคพื้นดิน ปืนใหญ่และการโจมตีทางอากาศ ตลอดห้วงสงคราม สหรัฐดำเนินการทัพทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ขนานใหญ่ต่อเวียดนามเหนือ และต่อมาน่านฟ้าเวียดนามเหนือกลายเป็นน่านฟ้าที่มีการป้องกันหนาแน่นที่สุดในโลก
สงครามเวียดนาม
เป็นส่วนหนึ่งของ สงครามเย็น
VNWarMontage.png
ตามเข็มนาฬิกาจากบนซ้าย: ปฏิบัติการรบของสหรัฐในเอีย ดรัง, ทหารพราน ARVN กำลังป้องกันกรุงไซ่ง่อนระหว่างการรุกตรุษญวน ปี 2511, ดักลาส เอ-4ซี สกายฮอล์ค 2 ลำระหว่างบินไปโจมตีทางอากาศต่อเวียดนามเหนือหลังเหตุการณ์อ่าวตังเกี๋ย, ARVN ยึดจังหวัดกว๋างจิคืนระหว่างการรุกอีสเตอร์ ปี 2515, พลเรือนหลบหนีจากยุทธการที่กว๋างจิ ปี 2515, หลุมฝังศพเหยื่อ 300 คนในการสังหารหมู่ที่เว้ ปี 2511
วันที่ธันวาคม 2498 – 30 เมษายน 2518
(19 ปี 5 เดือน)
สถานที่ประเทศเวียดนามใต้เวียดนามเหนือ กัมพูชาและลาว
ผลลัพธ์คอมมิวนิสต์ชนะ
  • กำลังต่อต้านคอมมิวนิสต์อันมีสหรัฐเป็นผู้นำถูกถอนออก
  • เวียดนามใต้ถูกผนวกรวมกับเวียดนามเหนือ
  • รัฐบาลคอมมิวนิสต์เถลิงอำนาจในเวียดนามใต้ กัมพูชาและลาว
คู่ขัดแย้ง
ผู้บัญชาการหรือผู้นำ
กำลัง
  • ~1,830,000 (2511)
  • เวียดนามใต้ เวียดนามใต้: 850,000
    1,500,000 (2517–8)[4]
  • สหรัฐ สหรัฐ: 536,100
  • กำลังทหารโลกเสรี: 65,000[5][6] แบ่งเป็น
  • เกาหลีใต้ เกาหลีใต้: 50,000[7]
  • ออสเตรเลีย ออสเตรเลีย: 7,672
  • ไทย ไทย : 10,450
  • ฟิลิปปินส์ : ฟิลิปปินส์ : 2,061
  • นิวซีแลนด์ นิวซีแลนด์: 552
  • ~461,000
  • เวียดนามเหนือ เวียดนามเหนือ: 287,465 (มกราคม 2511)[8]
  • ประเทศจีน จีน: 170,000 (2508–12)[9][10]
    [11]
  • สหภาพโซเวียต สหภาพโซเวียต 3,000
  • เกาหลีเหนือ เกาหลีเหนือ: 300–600พลเรือนเวียดนามตาย: 245,000–2,000,000[23][24]
  • พลเรือนกัมพูชาตาย: 200,000 – 300,000*[25][26][27]
  • พลเรือนลาวตาย: 20,000 – 200,000*
  • รวมยอดพลเรือนตาย: 465,000–2,500,000**
  • รวมยอดทั้งหมด: 1,102,000–3,886,026
  • * กำกับตัวเลขโดยประมาณ
  • ** ตัวเลขนี้รวมยอดผู้เสียชีวิตทั้งหมดในสงครามกลางเมืองลาวและกัมพูชาด้วย
  • รัฐบาลสหรัฐมองว่าการเข้ามามีส่วนในสงครามของตนเป็นหนทางป้องกันการยึดเวียดนามใต้ของคอมมิวนิสต์อันเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์การจำกัดการขยายตัวของลัทธิที่ไม่พึงปรารถนาที่ใหญ่กว่า โดยมีเป้าหมายที่แถลงไว้เพื่อหยุดการแพร่ของคอมมิวนิสต์ ตามทฤษฎีโดมิโนของสหรัฐ หากรัฐหนึ่งกลายเป็นคอมมิวนิสต์ รัฐอื่นในภูมิภาคก็จะเป็นไปด้วย ฉะนั้น นโยบายของสหรัฐจึงถือว่าการผ่อนปรนการแพร่ของคอมมิวนิสต์ทั่วประเทศเวียดนามนั้นยอมรับไม่ได้ รัฐบาลเวียดนามเหนือและเวียดกงต่อสู้เพื่อรวมเวียดนามอยู่ในการปกครองคอมมิวนิสต์ ทั้งสองมองข้อพิพาทนี้เป็นสงครามอาณานิคม ซึ่งเริ่มแรกสู้กับฝรั่งเศส โดยได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐ แล้วต่อมาสู้กับเวียดนามใต้ ซึ่งถูกมองว่าเป็นรัฐหุ่นเชิดของสหรัฐ[33] ที่ปรึกษาทางทหารชาวอเมริกันมาถึงอินโดจีนขณะนั้นเริ่มตั้งแต่ปี 2493 การเข้ามามีส่วนของสหรัฐเพิ่มขึ้นในช่วงต้นคริสต์ทศวรรษ 1960 โดยมีระดับทหารเพิ่มเป็นสามเท่าในปี 2494 และเพิ่มอีกสามเท่าในปีต่อมา[34] การเข้ามามีส่วนของสหรัฐทวีขึ้นอีกหลังเหตุการณ์อ่าวตังเกี๋ย ปี 2507 ซึ่งเรือพิฆาตของสหรัฐปะทะกับเรือโจมตีเร็วของเวียดนามเหนือ ซึ่งตามติดด้วยข้อมติอ่าวตังเกี๋ยซึ่งอนุญาตให้ประธานาธิบดีสหรัฐเพิ่มทหารในพื้นที่ หน่วยรบปกติของสหรัฐถูกจัดวางเริ่มตั้งแต่ปี 2498 ปฏิบัติการข้ามพรมแดนระหว่างประเทศ โดยพื้นที่ติดต่อกับประเทศลาวและกัมพูชาถูกกองทัพสหรัฐทิ้งระเบิดอย่างหนักขณะที่การเข้ามามีส่วนในสงครามของสหรัฐเพิ่มขึ้นสูงสุดในปี 2511 ปีเดียวกัน ฝ่ายคอมมิวนิสต์เปิดฉากการรุกตรุษญวน การรุกตรุษญวนไม่สัมฤทธิ์ผลในการโค่นรัฐบาลเวียดนามใต้ แต่ได้กลายเป็นจุดพลิกผันของสงคราม เพราะได้แสดงว่าเวียดนามใต้ไม่อาจป้องกันตัวเองจากเวียดนามเหนือได้ แม้สหรัฐจะทุ่มความช่วยเหลือทางทหารอย่างมหาศาลหลายปี ด้วยจุดชัยชนะของสหรัฐนั้นไม่ชัดเจน จึงค่อย ๆ มีการถอนกำลังภาคพื้นดินของสหรัฐโดยเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายเรียก การแผลงเป็นเวียดนาม (Vietnamization) ซึ่งมุ่งยุติการเข้ามามีส่วนในสงครามของสหรัฐขณะที่โอนภารกิจต่อสู้กับคอมมิวนิสต์ให้เวียดนามใต้เอง แม้ภาคีทุกฝ่ายลงนามข้อตกลงสันติภาพปารีสในเดือนมกราคม 2516 แล้วก็ตาม แต่การสู้รบยังดำเนินต่อไป ในสหรัฐและโลกตะวันตก มีการพัฒนาขบวนการต่อต้านสงครามเวียดนามขนาดใหญ่ขึ้น ขบวนการนี้ทั้งเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมต่อต้าน (Counterculture) แห่งคริสต์ทศวรรษ 1960 และเป็นปัจจัยหนึ่งของมัน
การมีส่วนร่วมทางทหารของสหรัฐยุติลงเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2516 อันเป็นผลมาจากคำแปรญัตติเคส–เชิร์ช (Case–Church Amendment) ที่รัฐสภาสหรัฐผ่าน[35] การยึดกรุงไซ่ง่อนโดยกองทัพประชาชนเวียดนามในเดือนเมษายน 2518 เป็นจุดสิ้นสุดของสงคราม และมีการรวมชาติเวียดนามเหนือกับเวียดนามใต้ในปีต่อมา สงครามนี้คร่าชีวิตมนุษย์ไปมหาศาล ประเมินตัวเลขทหารและพลเรือนชาวเวียดนามที่ถูกสังหารมีตั้งแต่น้อยกว่า 1 ล้านคนเล็กน้อย[36] ไปถึงกว่า 3 ล้านคน[23][37] ชาวกัมพูชาเสียชีวิตราว 2-3 แสนคน[25][26][27] ชาวลาวเสียชีวิต 20,000-200,000 คน[38][39][40][41][42][43] และทหารชาวอเมริกันเสียชีวิตในข้อพิพาทนี้ 58,220 นาย[A 1]


กำลังพลสูญเสีย
  • เวียดนามใต้ เวียดนามใต้
  • พลเรือนตาย 195,000–430,000 คน[12][13]
  • ทหารตาย 220,357[14]– 313,000 นาย (ประเมินสูงสุด);[15]บาดเจ็บ 1,170,000 นาย
  • สหรัฐ สหรัฐ
  • ตาย 58,220 นาย;[A 1]บาดเจ็บ 303,644 นาย[A 1]
  • เกาหลีใต้ เกาหลีใต้
  • ตาย 5,099 นาย; บาดเจ็บ 10,962 นาย; สูญหาย 4 นาย
  • ออสเตรเลีย ออสเตรเลีย
  • ตาย 500 นาย; บาดเจ็บ 3,129 นาย[16]
  • นิวซีแลนด์ นิวซีแลนด์
  • ตาย 37 นาย; บาดเจ็บ 187 นาย[17]
  • ไทย ไทย
  • ตาย 351 นาย; บาดเจ็บ 1,358 นาย[18]
  • ลาว ราชอาณาจักรลาว
  • ตาย 30,000 คน, บาดเจ็บไม่ทราบจำนวน[19]
  • รวมยอดผู้ตาย: 480,538–807,564
    รวมยอดผู้บาดเจ็บ: ~1,490,000+
  • เวียดนามเหนือรัฐบาลปฏิวัติเฉพาะกาลสาธารณรัฐเวียดนามใต้เวียดนามเหนือ, เวียดกง
  • พลเรือนตาย 50,000[15]-65,000 คน[12]
  • ทหารตายหรือสูญหาย 400,000[12] – 1,100,000 นาย;[20]บาดเจ็บ 600,000+ นาย[21]
  • ประเทศจีน จีน
  • ตาย 1,100 นาย; บาดเจ็บ 4,200 นาย[11]
  • สหภาพโซเวียต สหภาพโซเวียต
  • ตาย 16 นาย[22]
  • รวมยอดผู้ตาย: 455,462–1,170,462
    รวมยอดผู้บาดเจ็บ: ~604,200+

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้